เกาหลีใต้ส่งสัญญาณใช้ดีลญี่ปุ่น-สหรัฐฯ เป็นแนวทางเจรจาภาษีทรัมป์

ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า รัฐบาลกำลังพิจารณารายละเอียดของข้อตกลงการค้าฉบับล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางประกอบการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) ว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นแล้ว โดยจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 25% ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงการที่ญี่ปุ่นจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ทางการเกาหลีใต้เตรียมยื่นข้อเสนอการค้าฉบับครอบคลุม เพื่อขอลดภาษีตอบโต้ 25% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าเกาหลีใต้ รวมถึงภาษีเฉพาะกลุ่มที่ครอบคลุมสินค้าประเภทยานยนต์ เหล็กกล้า และอะลูมิเนียม ก่อนถึงเส้นตายที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ในวันที่ 1 ส.ค.

คัง ยู-จอง โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น หากมีส่วนใดในข้อตกลงที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการเจรจา ก็พร้อมจะนำมาใช้ประกอบการพิจารณา

รายงานระบุว่า คู ยุน-ชอล รัฐมนตรีคลัง และยอ ฮัน-กู รัฐมนตรีการค้า มีกำหนดเข้าร่วมการเจรจาการค้าแบบ “2+2” กับสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ในวันศุกร์นี้ (25 ก.ค.) นอกจากนี้ คิม จอง-กวาน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม ก็ได้ออกเดินทางไปยังสหรัฐฯ แล้ว ขณะที่วี ซอง-ลัก ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เดินทางไปถึงที่หมายก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ต่างกำลังพยายามหาทางออกที่เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อผลประโยชน์ของประเทศ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)