
นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ [TEAMG] เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ทีม เอสคิว จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทีมพลัส พาร์ทเนอร์ส จำกัด) และบริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด พร้อมบริษัทพันธมิตร เช่น บริษัท ครีเอทีฟครูส์ จำกัด จะร่วมลงนามในสัญญาจ้างสำรวจและออกแบบ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1 กับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] มูลค่าโครงการ 205.20 ล้านบาท บริษัทเป็น Lead Firm (ผู้ดำเนินการหลักของกลุ่มบริษัทที่ร่วมมือกัน) โดยมีสัดส่วนของบริษัทและบริษัทย่อยร้อยละ 55.56
สำหรับขอบเขตการดำเนินงานในโครงการนี้ ประกอบด้วย 3 กลุ่มงานหลัก ได้แก่
-กลุ่มงานที่ 1 กลุ่มงานเขตการบิน
-กลุ่มงานที่ 2 กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร และอาคารสนับสนุน
-กลุ่มงานที่ 3 กลุ่มงานระบบสนับสนุนท่าอากาศยาน
นายชวลิต กล่าวอีกว่า โครงการจ้างสำรวจและออกแบบท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ 1 ล้านคนต่อปี และผู้โดยสารภายในประเทศ 5 ล้านคนต่อปี ทำให้รองรับผู้โดยสารรวมทั้งหมดได้ไม่น้อยกว่า 6 ล้านคนต่อปี
อีกทั้งเพียงพอต่อปริมาณการจราจรทางอากาศ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทยในด้านต่างๆตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงยุทธศาสตร์ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยและแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เป็นการพัฒนาศักยภาพของสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภคของท่าอากาศยาน โดยการออกแบบมีเป้าหมายที่จะสร้างความประทับใจที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว
“ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงจัดเป็นท่าอากาศยานระดับภูมิภาค มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ภาคเหนือกับส่วนอื่นๆ ของประเทศและต่างประเทศ ท่าอากาศยานแห่งนี้รองรับการบินระหว่างประเทศไปยังนานาประเทศ เช่น ฮ่องกง มาเลเซียและประเทศอื่นๆในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยท่าอากาศยานที่ออกแบบใหม่จะเชื่อมต่อด้วยโถงทางเดินเทียบเครื่องบินกับอาคารผู้โดยสารหลังเดิมเพื่อให้ทั้งสองอาคารสามารถรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 6 ล้านคนต่อปี
นอกจากนั้นยังเพิ่มขีดความสามารถของทางวิ่งโดยออกแบบทางขับขนานด้านทิศใต้ และการเพิ่มขีดความสามารถของลานจอดอากาศยาน โดยปรับปรุงขยายลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้ และออกแบบลานจอดอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น การพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1 จึงเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมบทบาทให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญในภาคเหนือ และเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าระดับนานาชาติได้มากขึ้นอีกด้วย” นายชวลิต กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 68)

