
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 69 จัดอันดับความสำคัญงบประมาณน้อยเกินไป เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจที่จะตามมา ทั้งจากข้อตกลงกับสหรัฐฯ และระเบียบโลกที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนทุกภาคส่วน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีการปรับลดงบประมาณเพียง 8,920 ล้านบาท เพื่อต่อกรกับวิกฤติที่เกิดขึ้นจากกรณีภาษีตอบโต้สหรัฐฯ และเชื่อว่าสิ่งที่ไทยขาดมากที่สุดไม่ใช่ปริมาณของงบประมาณ แต่คือประสิทธิภาพการใช้งบประมาณอย่างตรงจุดและคุ้มค่า
ทั้งนี้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะดูงบประมาณจากกระทรวงไหนก็สามารถค้นพบงบประมาณบางส่วนที่ปรับลดได้ หรือโยกงบประมาณไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงานที่หรูหรา ใหญ่ ที่มีมากเกินความจำเป็น หรืองบประมาณที่นำไปพัฒนาแอปพลิเคชันที่แม้ทำไปแล้วก็ไม่มีคนใช้ หรืองบสัมมนาที่อาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
โดยความซ้ำซ้อนในการจัดทำงบประมาณ มี 3 ประเด็น คือ
1. การแยกกันทำ คือการที่มีโครงการที่เป็นประโยชน์แต่คาบเกี่ยวกับภารกิจหลายหน่วยงาน แต่หน่วยงานดังกล่าวต่างคนต่างทำมากกว่าร่วมกันทำ ตัวอย่างชัดเจนสุด คือแฟลตฟอร์มยกระดับทักษะแรงงาน มี 12 แฟลตฟอร์ม จาก 12 หน่วยงาน คาบเกี่ยว 5 กระทรวง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีความพยายามรวบรวมแฟลตฟอร์มเหล่านี้ และในปี 69 เรามีหลายหน่วยงานขยันของบประมาณทำแฟลตฟอร์มการเรียนรู้ใหม่ ๆ
2. แย่งกันทำ หรือความซ้ำซ้อนในระดับภารกิจ คือการที่หลายหน่วยงานจัดวางภารกิจที่แตกต่างกันและไม่ซ้ำซ้อนอย่างชัดเจน แต่ทางปฏิบัติหลายหน่วยงานมีการขยายภารกิจตัวเองที่เสี่ยงไปซ้ำซ้อนหน่วยงานอื่น
3. ย้ายออกไปทำ หรือความซ้ำซ้อนระดับหน่วยงานนั้น คือการที่มีหลายหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมากับภารกิจที่เสี่ยงจะซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากเรามีการศึกษาและพิจารณาควบรวมหน่วยงานที่เสี่ยงที่จะซ้ำซ้อนกันอย่างจริงจัง จะทำให้โครงการและกิจกรรมของรัฐมีความสะเปะสะปะน้อยลง และก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรมากขึ้น และทำให้หน่วยงานของรัฐมีการผลิตแผนที่น้อยลง แต่ทำงานในทิศทางเดียวกันมากขึ้น
“หากเราไม่เริ่มต้นมาปรับปรุงการจัดทำงบประมาณ โดยการลดความซ้ำซ้อนที่แทรกอยู่ในทุกระดับของระบบราชการ ประเทศเราเสี่ยงที่จะไม่เหลืองบประมาณเพียงพอในการแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ของพี่น้องประชาชน และเสี่ยงจะไม่มีความคล่องตัวมากพอในการรับมือวิกฤตกับปัญหาใหม่ ๆ ที่ถาโถมเข้ามา” นายพริษฐ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 68)