หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งกรอบแคบ ลุ้นดอกเบี้ยสหรัฐปรับลง จับตา GDP ไทยเช้านี้

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าดัชนีแกว่งในกรอบแคบ โดยปัจจัยภายนอกการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังออกมาอ่อนแอ หรือต่ำกว่าคาด อาจหนุนโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐได้

ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามการรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 2/68 ซึ่งตลาดคาด +2.7% YoY ลดลงจากไตรมาส 1/68 ที่ 3.1% แต่การปรับลดลงยังไม่แย่มาก เนื่องจากยังมีการเร่งส่งออกก่อนที่จะรู้ผลของมาตรการภาษีสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งการเปิดเผยตัวเลข GDP ไทยในวันนี้อาจทำให้ตลาดผันผวนได้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ หลังจากช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นไทยเริ่มแผ่ว จากที่ก่อนหน้านี้ปรับขึ้นมา อาจเริ่มมีความกังวลช่วง 2 สัปดาห์สุดท้าย ทั้งประเด็นการเมือง รวมทั้ง MSCI Rebalance อาจใช้จังหวะหุ้นย่อตั้งรับ หุ้นที่แนวโน้มครึ่งปีหลังยังเติบโต หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาทิ โรงไฟฟ้า ไฟแนนซ์

โดยให้กรอบแนวรับ 1,240 จุด และแนวต้าน 1,270 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (15 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,946.12 จุด เพิ่มขึ้น 34.86 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,449.80 จุด ลดลง 18.74 จุด หรือ -0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,622.98 จุด ลดลง 87.69 จุด หรือ -0.40%

– ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดปรับตัวผสมผสาน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 43,452.90 จุด เพิ่มขึ้น 74.60 จุด หรือ +0.17%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 25,293.34 จุด เพิ่มขึ้น 23.27 จุด หรือ +0.09% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,712.50 จุด เพิ่มขึ้น 15.73 จุด หรือ +0.42%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ส.ค.) 1,259.42 จุด ลดลง 7.25 จุด (-0.57%) มูลค่าซื้อขาย 48,320.80 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (15 ส.ค.) 581.78 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (15 ส.ค.) ลดลง 1.16 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.81% ปิดที่ 62.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ส.ค.) อยู่ที่ 4.01 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.48 คาดกรอบวันนี้ 32.35-32.55 จับตา GDP ไทย-ข้อมูลเศรษฐกิจตปท.

– ลุ้น สศช.ปรับจีดีพีรับภาษีมะกันวันนี้ ทีดีอาร์ไอคาดโต 1.5-2% ห่วงเปลี่ยน นายกฯกระทบนโยบายไม่ต่อเนื่อง ซ้ำเติม ศก. ททท.ทาบ’ลิซ่า’เป็น’อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แบรนด์แอมบาสเดอร์’ โปรโมตเที่ยวไทย

– ธปท.เผยดอกเบี้ยนโยบายยังค้างท่อ 57% เหตุผลส่งผ่านเพียง 43% หลังกนง.ลดดอกเบี้ย 4 ครั้งรวม 1.0% ยันล่าสุดลงสู่ระดับ 1.50% ต่อปี อยู่ในระดับเหมาะสม เน้นเก็บ Policy Space หวั่นเศรษฐกิจโดน Shock จากภาษีทรัมป์

– จับสัญญาณหนี้เสีย “ธุรกิจขนาดจิ๋ว” สูง 14.81% ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เกาะติดกลุ่มธุรกิจ “โรงแรม-ค้าปลีก” พบปัญหาหนี้เสียก้าวกระโดด ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น เผยบัญชีลูกหนี้ปกติทยอยปรับลดลง ขณะที่ตัวเลขหนี้ครัวเรือนคงค้างติดลบเป็นครั้งแรกลดลง 2 หมื่นล้าน เผย 2 ปัจจัยหลัก แบงก์ไม่ปล่อยกู้-เศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภคระวังใช้จ่ายคาดสิ้นปี’68 หนี้ครัวเรือนต่อจีพีดีอยู่ที่ 87%

– ประธาน ตลท.ลั่นเดินหน้าโครงการบัญชีการออม “TISA” แจง รมว.คลัง “พิชัย ชุณหวชิร” เห็นชอบหลักการแล้ว หลังหารือ 2 ครั้ง หวังชัดเจนภายในปีนี้ ดึงสรรพากรร่วมพิจารณาสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว “เงินลงทุนนำไปหักลดหย่อน-ยกเว้นภาษีเงินปันผล” ด้านรองอธิบดีกรมสรรพากรแจงยังไม่สรุปสิทธิประโยชน์ภาษี ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เตรียมประชุมอัพเดตความคืบหน้าสิงหาคมนี้

– ค่ายรถประเมินแผนผลิต EV ชดเชยนำเข้าตามเงื่อนไขมาตรการส่งเสริมภาครัฐตึงตัว หวั่นไม่ทันกำหนด ขานรับบอร์ด EV ปรับแผนรับมาตรการใหม่ หันส่งออกรับสิทธิคำนวณ 1.5 เท่า เชื่อดีกับ ค่ายรถ ลดค่าใช้จ่ายรัฐ เลี่ยงทุ่มตลาดดัมพ์ราคาในประเทศ คาดยอดขายปลายปีพุ่งก่อนปีหน้า ขึ้นราคาหลังจบ EV3.0 มั่นใจไม่เกิดรถมือสองศูนย์เหรียญระบายสต็อกในไทย “คลัง” หวังป้องกันรถใหม่ล้นตลาด

– กทม.ไปต่อ ทำส่วนต่อขยายเขียวใหม่ ‘บางหว้า-ตลิ่งชัน’ ระยะทาง 7.5 กม. วงเงิน 3-4 หมื่นล้านบาท ทำ PPP ศึกษา 1 ปี เปิด 3 แนวทาง ‘กทม.ทำเอง-BTS ทำต่อ-ประมูลใหม่’ บนเงื่อนไขรัดคอ สัญญาจ้างเดินรถปี 85 ต้องเอาไปด้วย คาดใช้เวลา 3 ปี ในการผลักดัน ปี 2574 ได้ใช้

 

หุ้นเด่นวันนี้

– CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 30 บาท ผู้บริหารให้ภาพว่าราคาหมูจะกลับมาฟื้นในไตรมาส 4/68 โดยการระบายหมูในปัจจุบันจากปัญหาแรงงานกัมพูชาซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราวคาดว่าจะเริ่มทยอยหายไป ขณะที่ภาพฝั่งต้นทุนจะยังปรับลงได้ต่อจาก Supply แต่ละสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงข้อตกลงนำเข้าจากสหรัฐฯ บริษัทไม่กังวลต่อ Oversupply หมูไทยแม้มีข้อตกลงนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯไม่เกิน 1% ของประมาณหมูไทย แต่ยังห้ามสารเร่งเนื้อแดงและกรมปศุศัตว์ต้องเข้าตรวจโรงงานก่อน ภาพรวมเรามองบวกกับข้อมูลที่ได้รับในระยะกลาง-ยาว

– TLI (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16.00 บาท Bond Yield ฟื้นตัว และเบี้ยใหม่ประจำไตรมาส 2 โตเด่น

โดย Bond yield 10 ปี ของสหรัฐปรับตัวขึ้น WTD 4.8 bps หลังตัวเลขยอดค้าปลีกในส่วนของรถยนต์โตเด่น ผสานกับตัวเลข PPI สูงกว่าคาด สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดย Bond yield ที่ปรับตัวขึ้น ส่งผลให้มูลค่าหนี้สินของ TLI ลดลงเร็วกว่าสินทรัพย์
นอกจากนี้ เบี้ยประกันรับปีต่อปี (APE) ในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (+39%YoY เทียบกับอุตสาหกรรมที่ทรงตัว) โดยเบี้ยประกันดังกล่าวจะทยอยรับรู้รายได้ในงวดถัดไป ในขณะที่ P/EV เพียง 0.6 เท่า เทียบกลุ่มภูมิภาคที่ซื้อขาย P/EV ที่ 1 เท่า โดยเราคาดอัตราเงินปันผลปี 68-70 ที่ 5-6% ช่วยจำกัด Downside

– CK (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 21.50 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องกับ CK ภายหลังรัฐสภามีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ overhang เรื่องของความเสี่ยงทางการเมืองต่องบประมาณหยุดชะงักหมดไปเราคาดว่าจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มก่อสร้าง และนอกจากนี้งบ CK ที่ออกมาดีกว่าที่เราคาดราว23.7% มาจากรายได้และอัตรากำไรที่สูงกว่าคาดนอกจากนี้ยังได้ผลเชิงบวกจาก CKP ที่อยู่ในฤดูน้ำเช่นกัน เราคาดรายได้ใน 2H25 จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการรับรู้โครงการใหม่และคาดว่าจะสามารถได้โครงการใหม่เช่น รถไฟความเร็วสูงไทยจีนเฟส2 และ โครงการทางด่วน double-deck เช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 68)