ดาวโจนส์ปิดลบ 349.27 จุด จับตาผลประกอบการ Nvidia, ข้อมูลศก.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (25 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการของบริษัทผลิตชิป AI รายใหญ่อย่างอินวิเดีย (Nvidia) ในสัปดาห์นี้ด้วย

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,282.47 จุด ลดลง 349.27 จุด หรือ -0.77%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,439.32 จุด ลดลง 27.59 จุด หรือ -0.43%, และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,449.29 จุด ลดลง 47.24 จุด หรือ -0.22%

นักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.) ภายหลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณในการประชุมที่เมืองแจ็กสันโฮลว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยระบุถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน

ขณะนี้นักลงทุนหันไปจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงดัชนี PCE ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์หน้า โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งรวมถึงจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส เพื่อประเมินว่าเจ้าหน้าที่เฟดทั้งสองมีมุมมองด้านนโยบายการเงินที่สอดคล้องกับพาวเวลหรือไม่

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคร่วงลง 1.62% ตามด้วยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 1.44% ส่วนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารดีดตัวขึ้น 0.44% และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.26%

หุ้นอินวิเดียปิดตลาดบวก 1.02% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในวันพุธนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ตลาดจับตามากที่สุดในสัปดาห์นี้ และจะเป็นบททดสอบสำคัญที่สามารถบ่งชี้ถึงอนาคตการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI

ทั้งนี้ การที่อินวิเดียมีสัดส่วนประมาณ 8% ในดัชนี S&P500 ผลประกอบการของบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกแห่งนี้จึงมีผลกระทบต่อนักลงทุนจำนวนมากในสหรัฐฯ ที่ใช้กองทุนรวมดัชนีเพื่อการออมเงินสำหรับเกษียณอายุ

หุ้นบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ปรับตัวลง โดยหุ้นอาร์เอช (RH) และเวย์แฟร์ (Wayfair) ต่างก็ร่วงลงกว่า 5% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินการสอบสวนเรื่องภาษีเฟอร์นิเจอร์ที่นำเข้ามาในสหรัฐฯ

หุ้นอินเทล (Intel) ปรับตัวลง 1% หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเข้ามาถือหุ้นในอินเทล และยังกล่าวด้วยว่ารัฐบาลจะเดินหน้าทำข้อตกลงกับบริษัทอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกับอินเทล

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 0.6% สู่ระดับ 652,000 ยูนิตในเดือนก.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 630,000 ยูนิต จากระดับ 656,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)