ASW กวาดยอดขาย 6 เดือนแรกกว่า 1.29 หมื่นลบ.ทะลุ 66% เป้าพรีเซลทั้งปี คอนโด-วิลล่าภูเก็ตดาวรุ่งพุ่งแรง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ [ASW] กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ ทั้งนโยบายภาษีทรัมป์ และสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

อย่างไรก็ตาม ASW ได้วางกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต ทำให้สามารถสร้างผลงานเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยช่วง 6 เดือนแรกของปี 68 (ม.ค.-มิ.ย. 68) บริษัทมียอดขายถึง 1.29 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 21% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคิดเป็น 66% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 1.95 หมื่นล้านบาท

ครึ่งแรกปี 68 บริษัทเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่า 1.07 หมื่นล้านบาท โครงการที่ทำยอดขายโดดเด่น คือ กลุ่ม Leisure Residences ในภูเก็ตที่พัฒนาโดยบมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ [TITLE] บริษัทย่อยในเครือ ได้แก่ โครงการเดอะ ไทเทิล วิลล่า เอสเตลลา ในยาง (THE TITLE Villa Estella Naiyang) ลักชัวรีวิลล่าที่ Sold Out 100% ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 เดือน โครงการเดอะ คาตาเบลโล (THE KATABELLO) ลักชัวรีคอนโดมิเนียมบนทำเลกะตะทำยอดขายแล้ว 56% และโครงการอะดอร่า ราไวย์ (ADORA RAWAI) ลักชัวรีคอนโดมิเนียมใกล้หาดราไวย์มียอดจองแล้วกว่า 50%

ส่วนโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลอย่างโครงการเคฟ เพลย์กราวด์ (Kave Playground) พรีแคมปัสคอนโดตรงข้าม รร.บดินทรเดชาฯ และโครงการแอทโมซ เดอ โซล (Atmoz De Sol) คอนโดมิเนียม Low-rise ใกล้สถานีทิพวัล ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่อาศัยเองและนักลงทุน

ด้านสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ สถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.75% การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ให้กู้ได้เต็ม 100% ในทุกราคาทุกสัญญา และการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 69 จึงเป็นโอกาสในการระบายสต๊อกโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) ที่โอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที และถือเป็นจังหวะดีของผู้ที่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยให้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/68 บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 9.96 พันล้านบาท โดยกว่า 90% ของมูลค่าโครงการพร้อมอยู่ทั้งหมด เป็นกลุ่มราคา 1-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มราคาที่ลูกค้าสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการรัฐได้เต็มที่

สำหรับการขับเคลื่อนยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 68 ASW ให้ความสำคัญกับ 2 ด้าน คือ 1. บริหารจัดการโครงการพร้อมอยู่ โดยจัดแคมเปญทางการตลาดร่วมกับพันธมิตรทางการเงินให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และบริการจัดหาผู้เช่าอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน

และ 2. เปิดโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพที่มีความต้องการซื้ออย่างชัดเจนจากกลุ่มซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุนทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงภูเก็ต อีกหนึ่ง World Destination ที่มีดีมานด์จากชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่มองหาพักอาศัยระยะยาว (Long-Stay) และท่องเที่ยวระยะสั้นที่จะเดินทางเข้าประเทศในช่วงไฮซีซั่นปลายปี ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายรวมของ ASW ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 1.95 หมื่นล้านบาท ตามแผนที่วางไว้

ไฮไลต์ในช่วงครึ่งปีหลังของ ASW คือ โครงการที่สร้างเสร็จใหม่เตรียมทยอยโอนเพิ่มอีก 3 โครงการ ได้แก่ 1. เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา (THE TITLE Legendary Bang-Tao) มูลค่า 4.5 พันล้านบาท ปัจจุบันกวาดยอดขายไปแล้วกว่า 88% และเริ่มทยอยรับรู้รายได้บางส่วนเมื่อช่วงปลายไตรมาส 2/68 เร็วกว่าแผน 2. มารูน รัชดา 32 (Maroon Ratchada 32) มูลค่า 900 ล้านบาท และ 3. เคฟ วันเดอร์แลนด์ (Kave Wonderland) ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มูลค่า 2.55 พันล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 68)