NCP ชูกลยุทธ์ “แพลตฟอร์มดิจิทัล” ดันยอดขายครึ่งหลังปี 68 พุ่งต่อเนื่อง

นายศรัณย์ เวชสุภาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไนซ์ คอล [NCP] เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง NCP เตรียมนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาผสานกับธุรกิจ Telesales ด้วยการทำตลาดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโต เพิ่มผลลัพธ์การเข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมมอบประสบการณ์การบริการที่ดี ช่วยหนุนยอดขายเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี

นอกจากนี้ ยังศึกษารูปแบบการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่เหมาะสมกับธุรกิจ มาใช้ในการให้บริการ เพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น

พร้อมกันนี้ ยังเตรียมขยายฐานลูกค้าหลักในกลุ่มสินค้า Health & Beauty ไปยังกลุ่มสินค้าอื่นๆ เช่น สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง, รถยนต์, อสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มวัยรุ่น โดยใช้ฐานข้อมูลเดิมและ AI เข้ามาช่วยคัดกรองความสนใจของลูกค้าเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ ทำให้บริษัทมีลูกค้าใหม่ในตลาดใหม่เพิ่ม หรือลูกค้าในกลุ่มเดิมที่ซื้อสินค้าในกลุ่มใหม่

สำหรับแผนขยายกำลังคน บริษัทได้กระจายทีมงาน Telesales ที่ทำงานในออฟฟิศ, Work from Home และในเรือนจำ เพื่อความยืดหยุ่นสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ พร้อมเตรียมเปิดออฟฟิศใหม่ช่วงปลายปีนี้ โดยจะสามารถรองรับพนักงาน Telesales ได้มากถึง 200 คน และได้ว่าจ้างบริษัท Outsourcing จัดหาพนักงาน เพื่อให้มีพนักงาน Telesales ที่เพียงพอต่อการบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

จากแผนธุรกิจที่กำหนด บริษัทเชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่หนุนผลงานธุรกิจหลัก ทั้งธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ (Telesales), ธุรกิจการให้บริการเพิ่มยอดขายสินค้าจากการขายครั้งแรก (Upselling Service) และธุรกิจการให้บริการบริหารพนักงานขาย (Dedicated Telesales Outsourcing) ยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก และช่วยหนุนผลงานปี 2568 เติบโต 20-30% ตามเป้า โดยประเมินว่า รายได้ปีนี้น่าจะเติบโตประมาณ 20-30% และกำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตประมาณ 30-40% จากปีก่อน

ทั้งนี้ แม้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศปัจจุบันจะมีความไม่แน่นอนและผันผวน แต่ธุรกิจของ NCP ยังคงเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยผลประกอบการไตรมาส1/68 เติบโตแบบ “ดับเบิล” เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 8% และกำไรโต 112% โดยธุรกิจที่เติบโตโดดเด่นที่สุด คือกลุ่มธุรกิจบริการที่โตมากถึง 836%

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี NCP ได้ปรับตัวสู้ศึกเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดแข็งที่มีฐานลูกค้ากว่า 5 ล้านรายที่หลากหลาย ไม่ได้พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง หรือกลุ่มลูกค้าใดโดยเฉพาะ ตลอดจนการกระจายความเสี่ยงในทุกมิติ ทั้งลูกค้า พนักงาน และซัพพลายเออร์ ตลอดจนการมีผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อมากกว่า 200 รายการ

“โมเดลของ NCP ที่ไม่ได้พึ่งพาธุรกิจรายใหญ่เพียงรายเดียว แต่เป็นเหมือนกองทัพมดที่แข็งแรง พร้อมกระจายความเสี่ยง สามารถปรับตัวได้รวดเร็วตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการมุ่งสร้างการเติบโตที่หลากหลาย ทั้ง การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายฐานลูกค้า และการพัฒนาระบบ AI เพื่อเสริมประสิทธิภาพการขายและบริการ นับเป็นหัวใจของธุรกิจในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายศรัณย์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 68)