
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16-17 ก.ย. พร้อมระบุว่า เฟดควรลดดอกเบี้ยไปตั้งแต่เดือนมิ.ย.แล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ บิสิเนส (Fox Business) ในวันอังคาร (12 ส.ค.) เบสเซนต์ยังแสดงความหวังว่า สตีเฟน มิแรน ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาว (CEA) จะได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้เข้าร่วมในคณะผู้ว่าการเฟดก่อนการประชุมเฟดในเดือนก.ย.
เครื่องมือ CME FedWatch บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.4% ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 85.9%
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เบสเซนต์ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการสรรหาประธานเฟดคนใหม่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มี “ใจที่เปิดกว้าง” เกี่ยวกับแคนดิเดตที่จะชิงตำแหน่งประธานเฟด และเสริมว่าประธานเฟดคนต่อไปควรจะเป็นคนที่ “สามารถปรับปรุงสถาบันแห่งนี้ได้”
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคนปัจจุบัน เกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟด และได้กดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะมองว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่พาวเวลจะยอมทำตาม
ทั้งนี้ วาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของพาวเวลจะสิ้นสุดในเดือนพ.ค. 2569 และเขาเน้นย้ำมาโดยตลอดว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนกำหนด
สำหรับการลาออกของเอเดรียนา คูเกลอร์ อดีตสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดเมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.นั้น ได้ทำให้เกิดตำแหน่งว่างและเปิดทางให้ปธน.ทรัมป์ดำเนินการแต่งตั้งสมาชิกผู้ว่าการเฟดคนใหม่ โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ของเฟดระบุว่า สมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดมีทั้งหมด 7 คน และไม่มีผู้ว่าการเฟดคนอื่น ๆ มีกำหนดจะออกก่อนที่วาระของพาวเวลจะสิ้นสุดลง
นอกจากนี้ เว็บไซต์ของเฟดระบุว่า สมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดจะได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ และต้องได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา ส่วนประธานและรองประธานคณะผู้ว่าการเฟดจะได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดี โดยคัดเลือกจากบรรดาผู้ว่าการ และต้องได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาเช่นกัน
ดาร์เรลล์ เวสต์ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบัน Brookings Institution ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า “พาวเวลจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานจะบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องทำเช่นนั้น … ทรัมป์ไม่มีอำนาจต่อรองมากนักนอกจากการประกาศผู้สืบทอดตำแหน่งของพาวเวลล่วงหน้าก่อนที่วาระของเขาจะสิ้นสุดลง เพื่อกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่เฟดปฏิบัติตามผู้นำคนนั้น”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 68)