ศาลสูงสุดมาเลเซียปัดตกฎีกาอัยการ กรณี “นาจิบ ราซัค” ยื่นขอกักบริเวณในบ้านพัก

ศาลสูงสุดมาเลเซียได้มีคำพิพากษาในวันนี้ (13 ส.ค.) ให้ยกคำร้องฎีกาของอัยการสูงสุด ซึ่งมุ่งหมายจะคัดค้านไม่ให้อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ดำเนินการเพื่อขอตรวจสอบเอกสารที่เขาอ้างว่าเป็น “พระราชกระแสเพิ่มเติม” อันเป็นฉบับที่เจ้าตัวอ้างว่าจะเปิดช่องให้ตนสามารถรับโทษจำคุกด้วยการกักบริเวณในบ้านพักแทน

นาจิบ ซึ่งเริ่มรับโทษจำคุกตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 จากคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุน 1MDB ได้กล่าวอ้างว่า มีพระราชกระแสเพิ่มเติมดังกล่าวออกมาเมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ก่อน คือ สมเด็จพระราชาธิบดีอัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ ซึ่งการอภัยโทษครั้งนั้นได้ลดโทษจำคุกของเขาจาก 12 ปี เหลือ 6 ปี

นับตั้งแต่นั้นมา นาจิบได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอให้ยืนยันการมีอยู่จริงและบังคับใช้ตามพระราชกระแสรับสั่งฉบับดังกล่าว

คดีนี้กลายเป็นประเด็นที่สร้างความกังขาและเป็นที่จับตาในมาเลเซีย หลังจากหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง รวมถึงสมาชิกในคณะกรรมการผู้ถวายคำแนะนำในการขอพระราชทานอภัยโทษ ได้ปฏิเสธมานานหลายเดือนว่าไม่ทราบถึงการมีอยู่ของพระราชกระแสเพิ่มเติมฉบับดังกล่าว แม้ว่าทางสำนักพระราชวังของสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ก่อนได้ยืนยันว่ามีการออกเอกสารฉบับนั้นจริงก็ตาม

องค์คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดแห่งสหพันธรัฐ 3 ท่าน มีมติเป็นเอกฉันท์ในวันนี้ โดยระบุว่า ศาลยอมรับการมีอยู่ของพระราชกระแสเพิ่มเติมฉบับนี้ แต่ศาลไม่อยู่ในฐานะที่จะชี้ขาดได้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของจริง หรือได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นส่วนหนึ่งของการพระราชทานอภัยโทษจริงหรือไม่

ผู้พิพากษาศาลสูงสุดแห่งสหพันธรัฐ ซาบาเรียะฮ์ โมฮ์ด ยูซอฟ กล่าวว่า “ศาลจึงมีคำสั่งให้ส่งสำนวนความกลับไปยังศาลสูง เพื่อดำเนินการไต่สวนเนื้อหาแห่งคดีโดยองค์คณะผู้พิพากษาชุดใหม่ต่อไป”

ทั้งนี้ นาจิบถูกตัดสินว่ามีความผิดเมื่อปี 2563 ในข้อหาละเมิดต่อหน้าที่และใช้อำนาจโดยมิชอบ ฐานรับทรัพย์สินอันได้มาโดยทุจริตจากหน่วยงานย่อยของกองทุนเพื่อการพัฒนามาเลเซีย (1MDB)

แม้ข้อกล่าวหาบางกระทงที่เกี่ยวเนื่องกับกองทุน 1MDB จะถูกศาลสั่งให้จำหน่ายคดีไปแล้วก็ตาม แต่นาจิบยังคงรอฟังคำพิพากษาในคดีที่สำคัญที่สุด ซึ่งศาลมีกำหนดจะรับฟังคำแถลงการณ์ปิดคดีในเดือนต.ค. นี้

อนึ่ง นาจิบได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหามาโดยตลอด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 68)