ทรัมป์อ้างคดีฆ่าหญิงลี้ภัยยูเครน จี้ใช้ยาแรงปราบอาชญากรรม จ่อส่งทหารคุมเมืองเดโมแครต

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ใช้เหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญหญิงชาวยูเครนบนรถไฟในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อผลักดันแผนส่งกองกำลังเข้าปราบปรามอาชญากรรมในเมืองที่บริหารโดยพรรคเดโมแครต ท่ามกลางเสียงคัดค้านว่าเป็นการฉวยโอกาสจากโศกนาฏกรรม

เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นข่าวดังทั่วประเทศ หลังทางการเผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผยให้เห็นนาทีที่ ไอรีนา ซารุตสกา ศิลปินสาววัย 23 ปี ถูก ดีคาร์ลอส บราวน์ วัย 34 ปี ใช้มีดพกจ้วงแทงอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่ทันตั้งตัว ขณะโดยสารรถไฟฟ้ารางเบาในเมืองชาร์ลอตต์ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.

สำหรับซารุตสกา หรือ “ไอรา” เธอและครอบครัวเพิ่งลี้ภัยสงครามจากยูเครนมายังสหรัฐฯ ได้เพียง 3 ปี และมีความฝันที่จะเป็นผู้ช่วยสัตวแพทย์

ส่วนบราวน์ ผู้ก่อเหตุนั้น ข้อมูลจากศาลชี้ว่าบราวน์มีประวัติอาชญากรรมโชกโชนและเคยรับโทษจำคุกหลายปีในคดีปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งถูกจับกุมเมื่อเดือนม.ค. ในข้อหาแจ้งความเท็จผ่านสายด่วน 911 โดยอ้างว่ามีคนฝัง “วัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น” ไว้ในร่างกายเพื่อควบคุมพฤติกรรมของเขา แต่เขาได้รับการปล่อยตัวและถูกสั่งให้ไปตรวจสุขภาพจิตในภายหลัง

เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองอย่างรวดเร็ว เมื่อปธน.ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเชื่อมโยงโศกนาฏกรรมครั้งนี้เข้ากับแผนของตนที่จะส่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและกองกำลังพิทักษ์ชาติเข้าไปยังเมืองชิคาโกและเมืองอื่น ๆ ของเดโมแครต

“เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม เราก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด” ทรัมป์กล่าว พร้อมพาดพิงถึงเมืองชิคาโก ซึ่งเป็นเป้าโจมตีของเขามาตลอดหลายสัปดาห์

ฝ่ายของทรัมป์ต่างออกมาประสานเสียงโจมตีผู้นำเดโมแครต โดยฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีคมนาคม กล่าวว่า “การที่เมืองชาร์ลอตต์ไม่ลงโทษเขาอย่างสาสม คือความล้มเหลว” ขณะที่สตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ก็กล่าวหาว่านโยบายของพรรคเดโมแครตเอื้อต่ออาชญากร

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเดโมแครตได้ออกมาตอบโต้ทันที โดยนายกเทศมนตรีเมืองชิคาโกและผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของทรัมป์ และเรียกร้องไม่ให้ส่งกองกำลังเข้ามาในพื้นที่ ด้าน วี ไลล์ส นายกเทศมนตรีเมืองชาร์ลอตต์ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

ทั้งนี้ กรมตำรวจเมืองชาร์ลอตต์ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สถิติอาชญากรรมรุนแรงในเมืองได้ลดลงถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ขณะเดียวกัน ข้อมูลสถิติอย่างเป็นทางการชี้ว่าอาชญากรรมรุนแรงได้ลดลงทั้งในวอชิงตัน ดี.ซี. และชิคาโก ถึงแม้ทั้งสองเมืองจะมีอัตราการฆาตกรรมสูงกว่าเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กและลอสแอนเจลิสก็ตาม

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 68)