
เมื่อเวลา 10.55 น. HANA บวก 4.08% เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 25.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 399.08 ล้านบาท
CCET บวก 2.63% เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มาที่ 5.85 บาท มูลค่าการซื้อขาย 112.55 ล้านบาท
DELTA บวก 2.10% เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มาที่ 146.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 795.94 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุว่า DELTA Taiwan รายงานรายได้เดือน ส.ค. +5%m-m และ 27%y-y อยู่ที่ 47.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำจุดสูงสุดใหม่ และดีกว่าที่ตลาดคาด โดยมีแนวโน้มที่กำไร DELTA ช่วง H2/68 และโดยที่งวดไตรมาส 3/68 แนวโน้มดีกว่าคาด แรงหนุนจากความต้องการฝั่ง AI ในช่วงปี 69-70
คาดผลประกอบการของบริษัทชิ้นส่วนไทย โดยเฉพาะ DELTA มีโอกาสยอดขายช่วง H2/68 จะดีตามมองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นส่งออกชิ้นส่วน แต่ระยะสั้นมีจิตวิทยาลบจากเงินบาทแข็งค่าเช้านี้แข็งค่า 31.6 +/- บาท มากสุดใน 4 ปี และมีโอกาสเดินหน้าแข็งค่าต่อ กลยุทธแนะนำ Trading
ขณะที่ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ระบุว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนเดือน ส.ค. ภาพรวม ชะลอตัวลง โดยการส่งออกขยายตัว +4.4% YoY ต่ากว่าที่ตลาดคาดที่ 5% และแตะระดับต่าสุดในรอบ 6 เดือน ส่วนการนำเข้าเดือนเดียวกัน +1.3% YoY กว่าตลาดคาดที่ 3% แรงกดดันสำคัญมาจากการส่งออกไปสหรัฐฯ หดตัวถึง -33.1% YoY เทียบกับเดือน ก.ค. ที่ -21.7% YoY และใกล้เคียงเดือน พ.ค. ที่ -34.5%
ทั้งนี้ การค้าระหว่างประเทศของจีนที่อ่อนแออาจสร้างความผันผวนต่อหุ้นกลุ่ม China Play (SCC, IVL, PTTGC, SCGP) ได้ อย่างไรก็ดี การส่งออกไปสหรัฐฯ ของจีนที่ลดลง ย่อมหมายถึงโอกาสที่สินค้าของไทยจะสามารถเข้าไปทดแทนสินค้าจากจีนในตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้นด้วย ซึ่งประเด็นนี้จะเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มส่งออกและนิคม (DELTA, HANA, KCE, CCET, SVI, TFG, BTG, CPF, GFPT, AAI, ITC, WHA, AMATA)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 68)