
นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.)เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ ซึ่งยังคงรอปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลที่จะออกมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจว่าจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เช่นเดียวกัน แต่อาจจะมีแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานไดบ้าง หลังจากที่ข้อตกลงอิรักและรัฐบาลภูมิภาคของเคอร์ดิสถานเพื่อกลับมาส่งออกน้ำมันดิบผ่านตุรกียังชะงักอยู่ ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวลงเล็กน้อย
โดยให้แนวต้าน 1,285-1,290 จุด แนวรับ 1,260-1,265 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,292.78 จุด ลดลง 88.76 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,656.92 จุด ลดลง 36.83 จุด หรือ -0.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,573.47 จุด ลดลง 215.50 จุด หรือ -0.95%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 45,484.41 จุด ลดลง 9.25 จุด หรือ -0.02%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,073.69 จุด ลดลง 85.43 จุด หรือ -0.33% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,804.48 จุด ลดลง 17.35 จุด หรือ -0.45%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ก.ย.) 1,273.20 จุด ลดลง 9.34 จุด (-0.73%) มูลค่าซื้อขาย 40,147.95 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (23 ก.ย.) 939.60 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. (23 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 63.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ก.ย.) อยู่ที่ 3.07 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.90 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค จับตาทิศทาง Flow-ราคาทอง คาดกรอบวันนี้ 31.75-32.00
- ผู้ว่าฯแบงก์ชาติชำแหละเศรษฐกิจไทยท่ามกลางมรสุม เผยจุดอ่อนประเทศไทยเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย ส่งผลมุ่งนโยบายระยะสั้น-ขาดความต่อเนื่อง ชูธงผนึกสภาพัฒน์-3 สถาบันเอกชน ร่วมกำหนด “หางเสือ” เศรษฐกิจไทย รองรับทุกรัฐบาล ชี้โจทย์เศรษฐกิจต้องเพิ่มรายได้ประชาชน ไม่ใช่เพิ่มตัวเลข GDP
- จีนเที่ยวไทยยังหด วันชาติจีนปีนี้คาดนักท่องเที่ยวเข้าไทย 2 แสนคน ลดลง 24 % แต่เริ่มมีสัญญาณกระเตื้องขึ้น หลังการเดินทางเฉลี่ยรายวัน รวมถึงเที่ยวบินใหม่เข้าไทยกลับมาเกินดุลขยับขึ้น ททท.เร่งกระตุ้นตลาดเต็มสูบ เอกชนจี้รัฐบาลใหม่เร่งสร้างความปลอดภัย ด้านทูตจีนทำงานใกล้ชิดรัฐบาลไทย สร้างความเชื่อมั่น
- จับตา Domino Effect ตลาดออฟฟิศไทยซมพิษเศรษฐกิจซัพพลายใหม่ทะลักปีละ 3 แสน ตร.ม.ติดกัน 4 ปีเต็ม คาดสิ้นปี68 พื้นที่รวมพุ่งเกือบ 11 ล้าน ตร.ม.สวนทางดีมานด์เช่าใหม่ ทำเลเกรด A-B เปิดศึก Prices War ดัมพ์ 20-30% ทุบค่าเช่าร่วงยกแผง ไพรมแอเรียย่านลุมพินี 1,300 บาท/ตร.ม./เดือน เบียดแชมป์เก่าย่านราชประสงค์ ค่าเช่าลดเหลือ 775 บาท ฟันธงยุคทองผู้เช่า
- แบงก์ชาติเผยปรับข้อมูลบัญชีดุลชำระเงิน หรือ NEO ปี 67 ส่งผลค่าความคลาดเคลื่อนลดลงกว่าครึ่ง เหลือ 2.3 แสนล้านบาท ย้ำไม่เกี่ยวกับค่าบาทแข็ง พร้อมแจงบาทแข็งมาจากดุลบัญชีเดินสะพัดดีกว่าคาด การเมืองคลี่คลาย และคนไทยซื้อทองคำด้วยเงินบาทมากขึ้น ต้นสัปดาห์หน้าเชิญผู้ค้าทองคำถกรอบ 2 เล็งให้ซื้อขายทองออนไลน์ด้วยค่าเงินดอลลาร์ ด้าน “วรภัค” รมช.คลัง เผยสมาคมธนาคารไทยเสนอ 4 นโยบายเร่งด่วน ทั้งดึงเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบ แก้หนี้ครัวเรือน เพิ่มรายได้ครัวเรือน ดึงต่างประเทศเข้าลงทุน
- ยอดผลิตยานยนต์ไทย 8 เดือนแรก ปี 2568 ร่วงเกือบ 6% “ส.อ.ท.” เสนอ “อนุทิน” เร่งตั้งกองทุนค้ำประกัน 2,000-5,000 ล้าน กระตุ้นยอดขายรถกระบะ เพิ่มรายได้รัฐและจ้างงานทั้งซัพพลายเชน
- UNDP เผยภาษีสหรัฐกระทบส่งออกอาเซียนวูบ 9.7% “กัมพูชา-เวียดนาม-ไทย” เจ็บหนักสุด ชี้ 2 กลยุทธ์อาเซียนเดินเกมยุคสงครามการค้า ขยายตลาดใหม่ลดพึ่งสหรัฐ คู่ขนานดันบริโภค ในประเทศ ส.อ.ท.เสนอรัฐบาลปรับยุทธศาสตร์ลดพึ่งพาตลาดสหรัฐ กระจายไป “อาเซียน-อียู” ด้านหอการค้า เสนอเจาะตลาดรองเพิ่ม ทั้งจีน ยุโรป เอเชีย เร่งรัฐบาลเจรจาเอฟทีเอ หาตลาดใหม่
- ครม.หนู 1 เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณวันนี้ “อนุทิน”ประชุม ครม.นัดแรกทันที เห็นชอบกรอบแถลงนโยบายรัฐบาลปกสีน้ำเงิน คาดวันที่ 29-30 ก.ย.
หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ.สกิน ลาบอราทอรี่ [SKIN] เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SKIN” ในวันที่ 24 ก.ย. 68 ด้วยราคา IPO ที่ 1.20 บาท SKIN ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามภายใต้แบรนด์หลักของบริษัท ได้แก่ Skinsista และ Dermie
- BTG (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 21.20 บาท ประกาศซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น (4.4% ของหุ้นทั้งหมด) วงเงิน 2 พันล้านบาท โดยช่วงเวลาการซื้อหุ้นคืน ระหว่าง 29 ก.ย.68-27 มี.ค.69 ถือเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อราคาหุ้น ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาย่อตัว ตามราคาหมูที่ปรับลดลงแรงต่อเนื่อง แต่เริ่มเห็นมาตรการของสมาคมผู้เลี้ยงหมูที่ออกมาเพื่อพยุงราคาหมูไม่ให้ตกต่ำเกินไป อาจเป็นแรงช่วยจำกัด Downside ขณะที่ Valuation กลับมาเทรดในระดับที่เริ่มน่าสนใจ
- ERW (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 3.11 บาท จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ อีกทั้งผู้ว่าการ ททท. ได้เสนอไอเดียผ่าน social media ให้มีโครงการ ทัวร์ไทยคนละครึ่ง เพื่อดึงดูดคนไทยออกมาเที่ยวภายในประเทศ ประกอบกับเราคาดหวังการฟื้นตัวใน 2H25 ที่เป็น high season เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก อีกทั้ง ททท. เปิดตัวโครงการ “Nihao Month” ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีน (Golden Week) ระหว่าง 1-8 ต.ค.68 เพื่อรับมือการชะลอตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ที่อาจหนุนให้รายได้มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/68
- TTB (ดีบีเอสฯ) “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 2.22 บาท ปันผลระหว่างกาลงวด H1/25 เท่ากับ 0.066 บาท/หุ้น (เทียบกับ 0.065 บาท/หุ้นใน 1H24) ใกล้เคียงกับเราคาด ขึ้น XD วันที่ 6 ต.ค.จ่าย 22 ต.ค.68 ณ ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น Interim DY เท่ากับ 3.5% ส่วนครึ่งปีหลังคาดปันผล 0.065-0.066 บาท/หุ้น นับว่าให้ DY ต่อปีจูงใจมากราว 7% ต่อปี ขณะที่ธุรกิจยังมั่นคง บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี และมีผลขาดทุนจากการปิด TBANK มาช่วยลดภาษีรายได้ฯ ราคาปัจจุบันมี P/BV ที่ 0.8 เท่า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 68)