HMPRO ทุ่มงบ 570 ลบ.เปิดไฮบริดสโตร์ โฮมโปร x เมกาโฮม พุทธมณฑลสาย 4 เป้ายอดขายกว่า 60 ลบ./เดือน

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ [HMPRO] เปิดเผยว่า บริษัทขยายสาขาในพื้นที่ศักยภาพฝั่งตะวันตก เปิด”โฮมโปร x เมกาโฮม พุทธมณฑลสาย 4″ ด้วยงบลงทุนกว่า 570 ล้านบาท บนพื้นที่รวมกว่า 13,277 ตร.ม. วางบทบาทเป็นศูนย์กลางที่คนทำบ้านและคนทำงานช่างได้มาเจอกัน ด้วยพื้นที่ขายสองโซนที่ออกแบบมาให้เชื่อมต่อกันอย่างลงตัว ผสานแรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์คนเมืองเข้ากับอุปกรณ์การทำงานจริง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ห้องตัวอย่างดีไซน์ตอบโจทย์คนเมือง ไปจนถึงพื้นที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสของแต่งบ้านจริง ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนอน รวมถึงแผนกห้องครัว และห้องน้ำครบทุกองค์ประกอบ

เส้นทางช้อปยังเชื่อมต่อสู่โซนวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ครบทั้ง เหล็ก ปูน สี ระบบน้ำ–ไฟ และเครื่องมือหนักที่ช่างและโรงงานใช้จริง พร้อมมีทีมที่ปรึกษาและทีมช่างโฮมโปร-มือโปรประจำบ้านคุณ ที่คอยดูแล ให้คำแนะนำ ออกแบบ และเลือกสเปกสินค้าได้แบบครบวงจร ในรูปแบบ One Stop Shopping ภายในยังออกแบบพื้นที่บริการให้รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่พื้นที่จอดรถที่รองรับได้เกือบ 200 คัน โซนรับ-ส่งสินค้าใกล้ประตู เพื่อความสะดวกในการขนส่ง ไปจนถึงจุดพักผ่อนด้วยร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มชั้นนำ

นายวีรพันธ์ กล่าวว่า HMPRO ตั้งเป้าสร้างยอดขายจากสาขานี้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทต่อเดือน โดยมองว่าทำเลพุทธมณฑลสาย 4 ถือเป็นจุดบรรจบระหว่างดีมานด์เรื่องบ้านในปัจจุบันกับศักยภาพของการเป็นฮับธุรกิจแห่งอนาคต ด้วยความเป็นถนนสายรองที่เติบโตเร็วที่สุดของย่าน และเป็นเส้นหลักสายเดียวที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นเศรษฐกิจสำคัญอย่าง มหาชัย ถนนบรมราชชนนี เพชรเกษม และพระราม 2 จึงกลายเป็นเส้นทางคมนาคมหลักที่เชื่อมโยงทั้งการค้าและการอยู่อาศัยของเมืองชั้นใน ทำให้พื้นที่นี้มีศักยภาพดึงดูดทั้งผู้คน-การลงทุน-กำลังซื้อ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องระยะยาว การเปิดไฮบริดสโตร์อนาคต “โฮมโปร x เมกาโฮม พุทธมณฑลสาย 4” นี้ จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของการยกระดับรีเทลเรื่องบ้านและงานก่อสร้าง ให้ตอบโจทย์ได้ทั้งกลุ่มลูกค้าผู้บริโภค (End User) และกลุ่มธุรกิจ (B2B) โดยเฉพาะกลุ่มช่างและภาคอุตสาหกรรม ได้อย่างครบวงจร

“พื้นฐานกำลังซื้อของย่านพุทธมณฑลสาย 4 ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มภาคครัวเรือนและโครงการที่อยู่อาศัยทุกระดับ ตั้งแต่โครงการระดับเริ่มต้น-ระดับกลาง ไปจนถึงโครงการระดับพรีเมียม ตามแนวถนนเส้นบรมราชชนนีและทวีวัฒนา แต่จุดสำคัญคือ อินไซต์ผู้บริโภคในพื้นที่แถบนี้ กำลังเปลี่ยนจาก “พักอยู่อาศัย” ไปสู่ “การประกอบภาคธุรกิจ” มากขึ้น เช่น การปรับบ้านเป็นโฮมออฟฟิศ คลินิก คาเฟ่ หรือห้องเช่า เพื่อรับกลุ่มนักศึกษาและกลุ่มแรงงาน ซึ่งทำให้ตลาดรีโนเวทเติบโตต่อเนื่อง ตั้งแต่การมองหาสินค้าที่ทนทาน ดูแลง่าย ไปจนถึงการอัปเกรดฟังก์ชันครัว หรือห้องน้ำ ให้สวยงาม ครบภายใต้งบที่คุ้มค่า ขณะเดียวกันพื้นที่นี้ยังเป็นที่ตั้งของ “โรงงานอุตสาหกรรม” ที่มีมากกว่า 1,600 แห่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ดีมานด์ด้านวัสดุก่อสร้าง-ซ่อมบำรุง เครื่องมือช่าง และบริการแบบ B2B เติบโตต่อเนื่อง และสร้างยอดขายซ้ำได้เป็นอย่างดี”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 68)