
ไม่ใช่แค่หุ้นเทคสหรัฐพุ่งไม่หยุด แต่หุ้นเทคจีนก็ไม่แพ้กัน เพราะโลกอนาคตหนีไม่พ้นเรื่องเทคโนโลยี AI Cloud กลายเป็นโฟกัสของนักลงทุน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นอาจสะดุดไปบ้าง เพราะกังวลว่าฟองสบู่จะแตก แต่เชื่อเถอะ!! อย่างไรแล้วหุ้นกลุ่มเทค ทั้งสหรัฐและจีนก็ยังร้อนแรงอยู่ Wealth Me Please EP นี้จึงพาไปเจาะลึกกลุ่มเทคจีนไปกับนางสาวธนันต์พร จรรย์โกมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย)
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เรียกบรรดาซีอีโอบริษัทเทคสัญชาติจีนเข้ามาพบปะเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปี 68 นั่นเป็นการส่งสัญญาณแล้วว่า “เทคโนโลยี” จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของจีนใช้ต่อกรกับสหรัฐที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่า ในขณะที่จีนเป็นผู้บริโภคเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งทำให้เทคจีนมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว
– Tencent ยักษ์ใหญ่จาจีนที่มีธุรกิจที่หลากหลายที่รู้จักกันในฐานะเจ้าของแอปพลิเคชัน WeChat และ QQ บริการชำระเงินดิจิทัล (WeChat Pay) ผู้สร้างภาพยนตร์ และลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก อีกทั้งยังโดดเด่นในการเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่ที่สุดของโลก
– Alibaba โดดเด่นเรื่องอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่อย่าง LAZADA หนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยม ได้แก่ Alibaba.com สำหรับการค้าส่งแบบ B2B, Taobao และ Tmall สำหรับผู้บริโภค และ Alipay บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง Alibaba Cloud และ AI
– Xiaomi บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 เป็นที่รู้จักจากการผลิตสมาร์ทโฟนคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย จากนั้นยังทยอยออกผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์อัจฉริยะหลากหลาย รวมถึงอุปกรณ์ IoT เช่น ทีวี หุ่นยนต์ดูดฝุ่น และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย ที่น่าทึ่งคือรถ EV ที่สร้างยอดขายพุ่งทะยานรวดเร็ว
– CATL เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้ ผลิตภัณฑ์หลักคือแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลก
– SIMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของจีนที่รองรับการใช้ในประเทศจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 68)





