หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.59 จุด แรงขายกลุ่มสื่อสาร-โรงไฟฟ้ากดดัน แม้เก็งงบแบงก์ช่วยพยุง

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,105.42 จุด ลดลง 4.59 จุด (-0.41%) มูลค่าซื้อขายราว 18,339 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งกรอบแคบไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดกลับมาเกาะติดความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐหลังยืนยันไม่ขยายเวลา 90 วัน โดยบ้านเรามีแรงขายหุ้นกลุ่มสื่สาร-โรงไฟฟ้ากดดัน ขณะที่แรงซื้อเก็งงบฯกลุ่มแบงก์ช่วยพยุง แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งไซด์เวย์ ให้แนวต้าน 1,110 จุด แนวรับ 1,090 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,105.42 จุด ลดลง 4.59 จุด (-0.41%) มูลค่าซื้อขายราว 18,339 ล้านบาท
  • การซื้อขายช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยทำระดับสูงสุด 1,113.57 จุด และต่ำสุด 1,103.99 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งตัวในกรอบแคบ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยตลาดกลับมารอติตามการเจรจาการค้าของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐประกาศไม่ขยายระยะเวลาเริ่มบังคับใช้ภาษีตอบโต้จากวันที่ 9 ก.ค.นี้ออกไป

เช้านี้ตลาดบ้านเรารับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มสื่อสารและโรงไฟฟ้าออกมากดดัน หลังจากช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นไปจากแรงซื้อเก็งกำไรประเด็นเฉพาะตัว แม้จะมีแรงซื้อเก็งกำไรงบฯไตรมาส 2/68 กลุ่มแบงก์เข้ามาช่วยพยุงไว้ได้บ้าง

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

แนวโน้มในช่วงบ่ายคาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ โดยให้แนวต้าน 1,110 จุด แนวรับ 1,090 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • KTC มูลค่าการซื้อขาย 2,107.49 ล้านบาท ปิดที่ 24.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,329.08 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,047.71 ล้านบาท ปิดที่ 279.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
  • SCB มูลค่าการซื้อขาย 965.76 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
  • DELTA มูลค่าการซื้อขาย 809.75 ล้านบาท ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 68)