หุ้นไทยปิดพุ่ง 14.82 จุด รับแรงหนุนจากกลุ่ม Domestic plays

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,595.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.82 จุด (+0.94%) มูลค่าการซื้อขาย 62,143.54 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นดีกว่าคาด-ดีกว่าตลาดภูมิภาคหลังลงนามข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ตลาดบ้านเราได้แรงหนุนจากการแสดงความคิดเห็นของ”สมคิด”ในการจะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Domestic plays ปรับตัวขึ้นเห็นได้จากหุ้นในกลุ่มแบงก์-รับเหมาฯ

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการทยอยประกาศงบฯ-ตัวเลขเศรษฐกิจงวดไตรมาส 4/62 ของประเทศต่าง ๆ ที่จะทยอยออกมา พรุ่งนี้ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up โดยมีแนวรับ 1,585-1580 แนวต้าน 1,600-1,620 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,595.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.82 จุด (+0.94%) มูลค่าการซื้อขาย 62,143.54 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,598.38 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,581.75 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 848 หลักทรัพย์ ลดลง 732 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 511 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าที่คาดไว้ และดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวกไม่มาก หลังจากที่มีการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ซึ่งมองเป็นปัจจัยบวก แต่ตลาดบ้านเราน่าจะขึ้นตอบรับการแสดงความคิดเห็นของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าจะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ให้อยู่ในระดับสูง โดยในครึ่งปีแรกจะเบิกจ่าย 54% และในไตรมาส 3 สิ้นสุดมิ.ย.63 ตามปีงบประมาณ ก็จะเบิกจ่าย 70% ปัจจัยดังกล่าวนี้ส่งผลบวกต่อ หุ้นกลุ่ม Domestic plays เห็นได้จากกลุ่มแบงก์ และกลุ่มรับเหมาฯ ที่ขยับขึ้นมา

อย่างไรก็ดียังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจงวดไตรมาส 4/62 ของประเทศต่าง ๆ ทั้งจีน, เกาหลี เป็นต้น และในช่วงปลายเดือนก็ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะขยับ Sideway up ได้บ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,585-1580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,620 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,602.51 ล้านบาท ปิดที่ 138.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 3,344.55 ล้านบาท ปิดที่ 24.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,048.01 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,018.58 ล้านบาท ปิดที่ 95.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,557.77 ล้านบาท ปิดที่ 197.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top