หุ้นไทยปิดพุ่ง 11.13 จุด รีบาวด์ตามตปท.ได้ SCC หนุนหลังกำไรดีกว่าคาด

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,524.59 จุด เพิ่มขึ้น 11.33 จุด (+0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 64,211.39 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในแดนบวกทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศทั้งภูมิภาค-ดาวโจนส์ ยกเว้นตลาดฮ่องกงร่วง แม้ตลาดฯรีบาวด์แต่ก็ยังกังวลไวรัสโคโรนาระบาด

ขณะที่ได้แรงหนุนจาก SCC หลังกำไรดีเกินคาด ส่วนศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรกลุ่มรับเหมาฯ กดดันตลาดเซระหว่างทางแต่ยังแกว่งบวกได้ พรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ แนะติดตามการทยอยประกาศงบฯ-ประชุมเฟด ให้แนวรับ 1,500 แนวต้าน 1,550 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,524.59 จุด เพิ่มขึ้น 11.33 จุด (+0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 64,211.39 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,528.14 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,511.15 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 893 หลักทรัพย์ ลดลง 721 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 466 หลักทรัพย์

น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้น และดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ยกเว้นตลาดหุ้นฮ่องกงที่เพิ่งกลับมาเทรดวันนี้ติดลบไปราว 2%

ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดฯรีบาวด์แต่ก็ยังมีความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา โดยตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้น SCC หลังประกาศผลกำไรออกมาดีกว่าคาด แต่การที่ศาลรัฐธรมนูญรับวินิจฉึยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ทำให้เกิด Take profit หุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ แต่ตลาดฯยังยืนในแดนบวกได้ จากนี้ไปก็ต้องรอดูผลกรสอนิจฉัย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่าเตรียมแผนรองรับไว้แล้วหากงบประมาณล่าช้า ความหวังตอนนี้เหลือเพียงแค่การลงทุน เพราะการท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาคงจะหวังพึ่งไม่ได้แล้ว

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง เนื่องจากยังต้องเกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งพรุ่งนี้ PTTEP จะประกาศงบฯ ทำให้นักลงทุนสนใจหุ้นเป็นรายตัว ส่วนคืนนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,609.23 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 4,085.83 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,568.34 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,408.82 ล้านบาท ปิดที่ 89.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,223.75 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top