หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาค รับเฟดหนุนชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดมาปรับขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังมีเจ้าหน้าที่เฟดออกมาสนับสนุนชะลอขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หนุน sentiment บวกระยะสั้น แต่ยังไร้ปัจจัยใหม่ และปัจจัยในประเทศด้านตัวเลขเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาผิดจากนักวิเคราะห์คาด ทำให้ฟื้นตัวได้ในกรอบจำกัด พร้อมให้แนวต้าน 1,620-1,625 จุด แนวรับ 1,600-1,605 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่ารีบาวด์กลับขึ้นมาได้ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้าวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่รีบาวด์กลับมา หลังมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสนับสนับสนุนให้เริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลหนุนต่อ sentiment ตลาดหุ้นในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะช่วยเข้ามาผลักดันดัชนีได้อย่างมีนัยสำคัญ และปัจจัยในประเทศในเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาก็ค่อนข้างผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดไป ทำให้การฟื้นตัวของดัชนีอย่างชัดเจนยังค่อนข้างจำกัด

ให้แนวต้าน 1,620-1,625 จุด แนวรับ 1,600-1,605 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,003.57 จุด พุ่งขึ้น 341.73 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,981.35 จุด เพิ่มขึ้น 29.96 จุด หรือ +0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 1111,462.98 จุด เพิ่มขึ้น 83.50 จุด หรือ + 0.73%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 27,683.26 จุด เพิ่มขึ้น 184.39 จุด หรือ +0.67%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,703.14 จุด เพิ่มขึ้น 273.68 จุด หรือ +1.34% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,314.77 จุด เพิ่มขึ้น 4.12 จุด หรือ +0.12%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 มี.ค.) 1,612.64 จุด ลดลง 7.34 จุด (-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 67,578.86 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 437.52 ลบ. เมื่อวันที่ 2 มี.ค.66
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(2 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 78.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 มี.ค.) อยู่ที่ 7.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.75 ตลาดรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง ให้กรอบวันนี้ 34.70-34.95
  • รัฐบาลสั่งคลัง “เลื่อนเก็บภาษีขายหุ้น” เผยเลขา ครม.ส่งร่างกฎหมายกลับคืน เหตุสภาธุรกิจตลาดทุนคัดค้านหนัก “อาคม” แก้เก้อสั่ง สศค.วิเคราะห์แนวทางจัดเก็บอีกรอบ
  • “สภาพัฒน์” ห่วงนโยบายหาเสียงเพิ่มงบสวัสดิการเพิ่มภาระการคลังประเทศ เผยงบประมาณรัฐจ่อขยับเพิ่มจาก 3 ล้านล้านในปี 66 เป็น 6.5 ล้านล้านในปี 85 เหตุรายจ่ายและงบสวัสดิการเพิ่ม แนะปฏิรูปภาษีก่อนเกิดปัญหาเพิ่มรายได้รัฐเร่ง ดึงแรงงานรายได้ขั้นต่ำเข้าระบบ เพิ่มประสิทธิภาพเก็บภาษี ลดรายการลดหย่อนภาษีเงินได้ ห่วงหนี้ครัวเรือนสูง พบเอ็นพีแอลจากโควิดเพิ่มแตะ 4 แสนล้าน
  • แบงก์ชาติ ระดมนักเศรษฐศาสตร์จากสำนักวิจัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ หารือประเด็นนโยบายการเงิน เศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และค่าเงิน ขณะคนในวงการเตรียมขอให้ดูแลค่าเงินมากขึ้น หลังผันผวนหนัก ทำผู้ประกอบการ บริหารจัดการยาก พร้อมวอนให้ กนง.กลับมาประชุมปีละ 8 ครั้งเหมือนเดิม แนะควรสื่อสารกับตลาดมากขึ้น
  • รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือน ม.ค.66 ไทยส่งออกได้มูลค่า 20,249.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 4.5% เทียบเดือน ม.ค.65 คิดเป็นเงินบาท 700,127 ล้านบาท ลดลง 0.9% การนำเข้า 24,899.1 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 5.5% คิดเป็นเงินบาท 871,430 ล้านบาท เพิ่ม 9.4% ขาดดุลการค้า 4,649.6 ล้านเหรียญ หรือขาดดุล 171,303.3 ล้านบาท โดยการส่งออกที่ลดลงมาจากการลดลงของสินค้าเกษตร 2.2% สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 3.3% และสินค้าอุตสาหกรรม 5.7% และยังได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อของคู่ค้าหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูง ฉุดกำลังซื้อและการผลิตโลกหดตัว ทำให้นำเข้าลดลง

หุ้นเด่นวันนี้

  • TRUE (ฟินันเซีย ไซรัส) ราคาเป้าหมายปี 2566 เบื้องต้นอยู่ที่ 9.90 บาท กลับบมาเทรดวันนี้แนวโน้มกำไรปี 2566 คาดว่าจะฟื้นตัวจาก Synergy หลังการควบรวมโดยเฉพาะด้านต้นทุนทั้งค่าใช้จ่าย และค่าเสื่อมราคาที่ลดหลังตั้ง Impairment สูงปีก่อน ด้านรายได้คาดเติบโตเล็กน้อย +1% y-y สำหรับธุรกิจMobile และ +3% y-y สำหรับ Broadband ระยะสั้นมีผลกระทบบางส่วนจากการย้ายค่าย เราประเมินกำไรปี 2566 ที่ 5.7 พันลบ.
  • PTTGC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 56 บาท ได้ประโยชน์จากภาคการผลิตจีนที่กลับมาฟื้นตัวคาดหนุนดีมานด์ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นเนื่องจากจีนเป็นผู้ใช้ปิโตรเคมีรายใหญ่ที่สุดของโลก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top