รฟท.ชงครม.ขอกู้ 1.8 หมื่นลบ. ใช้เสริมสภาพคล่องในปีงบ 67 หลังแบกหนี้อ่วม

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติให้รฟท.กู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน (กรณีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่าย)ของรฟท.ประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 18,000 ล้านบาท จากการจัดทำประมาณพบว่าจะขาดกระแสเงินสดประจำปี 2567 เนื่องจากผลประกอบการไม่เพียงพอกับรายจ่ายจึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง

หลังจากนี้จะเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)กระทรวงการคลังจะให้ความเห็นต่อครม.พิจารณากรอบวงเงินกู้และแหล่งเงินที่เหมาะสมต่อไป

ปัจจุบัน รฟท.มีภาระหนี้สินประมาณ 200,000 ล้านบาท ซึ่งตามบัญชีรฟท.เป็นเจ้าหนี้รัฐบาลเพราะรัฐไม่ให้เงินอุดหนุนตามที่รฟท.ต้องแบกรับภาระด้านบริการเชิงสังคมและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเมื่อรายได้ต่ำกว่ารายจ่ายและต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกปีส่งผลต่อบัญชีที่มีตัวเลขขาดทุนเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้จากประมาณการกระแสเงินสดปีงบประมาณ 2567 พบว่า จะมีรายรับรวม 10,661.094 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้การโดยสาร 2,957.46 ล้านบาท รายได้การสินค้า 2,467.46 ล้านบาท รายได้จากการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง 327ล้านบาท (รายได้โดยสาร 217 ล้านบาท รายได้เชิงพาณิชย์ 110 ล้านบาท) รายได้จากการบริหารทรัพย์สิน 3,736.806 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน ICD ที่ลาดกระบัง 499.812 ล้านบาท รายได้จากการดำเนินงานอื่น 503.526 ล้านบาท

ส่วนประมาณการค่าใช้จ่ายรวม 24,195.301 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายบำรุงทางอาณัติสัญญาณและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 3,514.988 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดง 1,111.285 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษารถจักรและล้อเลื่อน 3,824.142ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการเดินรถขนส่ง 9,342.678 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 1,005.064 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบำเหน็จบำนาญ 5,397.144 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเงินกู้ 5,436.331 ล้านบาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top