ดาวโจนส์ปิดบวก 197.07 จุด ตลาดซึมซับสถานการณ์ตอ.กลาง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (9 ต.ค.) หลังจากนักลงทุนซึมซับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,604.65 จุด เพิ่มขึ้น 197.07 จุด หรือ +0.59%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,335.66 จุด เพิ่มขึ้น 27.16 จุด หรือ +0.63% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,484.24 จุด เพิ่มขึ้น 52.90 จุด หรือ +0.39%

รายงานช่วงแรกระบุว่า กองทัพอิสราเอลได้เรียกทหารกองหนุนและปิดล้อมฉนวนกาซาแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าอิสราเอลจะทำการจู่โจมภาคพื้นดินเพื่อโค่นล้มกลุ่มฮามาสที่ก่อเหตุโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) ซึ่งเป็นเหตุให้ชาวอิสราเอลถูกสังหารกว่า 700 ราย ขณะที่ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 500 รายจากการตอบโต้ของอิสราเอล

แต่หลังจากนั้นมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาสเริ่มเปิดช่องทางการเจรจาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะสงบศึกชั่วคราวกับอิสราเอล ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เขาได้สั่งให้ทีมงานของทำเนียบขาวประสานงานกับพันธมิตรในภูมิภาค เพื่อเตือนไม่ให้ทุกฝ่ายฉวยโอกาสจากสถานการณ์ตึงเครียดครั้งนี้

ภาวะการซื้อขายในช่วงแรกเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวสู่แดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มซึมซับข่าวความตึงเครียดในตะวันออกกลางและกลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง ขณะที่ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ชะลอตัวลงสู่ระดับ 17.70 หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 19.6 ในระหว่างวัน

ส่วนอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกนั้น มาจากการแสดงความเห็นของนายลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสซึ่งกล่าวในการประชุมที่จัดโดยสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ (National Association for Business Economics) ของสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง เฟดก็อาจจะมีความจำเป็นน้อยลงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางส่งผลให้ราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 4% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.77% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 4.5%

นอกจากนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตอาวุธ โดยหุ้นนอร์ธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) ทะยานขึ้น 11.4% หุ้นแอลทรีแฮร์ริส เทคโนโลยีส์ (L3Harris Technologies) พุ่งขึ้น 9.96% หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) พุ่งขึ้น 8.9% หุ้นเรย์เธียน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) พุ่งขึ้น 4.6%

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง หลังจากการสายการบินหลายแห่งประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังอิสราเอล โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 4%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ในวันพุธนี้ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ในวันพฤหัสบดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top