ทรีนิตี้ มอง SET มี.ค.โอกาสฟื้นจากหลายปัจจัยบวก แนะส่องหุ้นรับเหมา-กลุ่ม บล.เก็งกำไรได้

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ มองทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนมีนาคม 2567 คาดฟื้นตัว จากปัจจัยหนุน

1.การเริ่มต้นบังคับใช้มาตรการฟรีวีซ่าระหว่างไทย-จีน เชื่อว่าจะส่งให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย

2.ความคาดหวังต่อการใช้จ่ายภาครัฐสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการลงทุน หลัง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับใหม่มีโอกาสถูกประกาศใช้เร็วขึ้น โดยทั้งเดือนมีนาคมนี้คาดว่าจะเห็นพัฒนาการเชิงบวกจากรัฐสภา

3.ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนทั่วไปในประเทศ หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เริ่มปรับตัวที่ Active มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการจำกัดธุรกรรม Short selling หรือ Program trading รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญต่างๆ

4.Fund flow ที่น่าจะเริ่มกลับเข้ามาเป็นบวกมากขึ้น หลังผ่านพ้นการปรับตะกร้าของดัชนี MSCI ในช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งในรอบนี้ตลาดหุ้นไทยถูกลดน้ำหนักลงเล็กน้อยในตะกร้า MSCI EM

5.Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ลงมาอยู่ในโซนที่น่าสนใจแล้ว สะท้อนผ่าน Earning yield gap ที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง และ Relative PE ระหว่างหุ้นไทยกับหุ้น ASEAN ที่ลงมาอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และ 6.การปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของไทยที่น่าจะสิ้นสุดลงชั่วคราว หลังผ่านพ้นเทศกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/66 ไปเป็นที่เรียบร้อย

ทรีนิตี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในเดือนนี้จะมีแนวรับแรกอยู่ที่ 1,370 จุด และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,340 จุด ในทางกลับกัน ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,410 จุด และแนวต้านสำคัญ 1,440 จุด ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำนักลงทุนหาจังหวะเข้าสะสมหุ้นไทยที่บริเวณดัชนี 1,370 จุดหรือต่ำกว่า

สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มที่เห็นโมเมนตัมของการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ และ Mobility ของผู้คนที่สูงขึ้น ได้แก่ 1.กลุ่มโรงแรม ได้แก่ MINT, CENTEL, ERW 2.กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL, CPAXT, BJC 3.กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, BCH, PR9 และ 4.กลุ่มสื่อสาร ADVANC, TRUE

ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรไปตามปัจจัยแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (ตามความคาดหวังการเบิกจ่ายภาครัฐ) และ กลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ (ตามวอลุ่มการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยที่สูงขึ้น)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top