
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (4 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเยอรมนีอนุมัติมาตรการลดภาษีนิติบุคคลมูลค่า 4.6 หมื่นล้านยูโร (5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 551.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด หรือ +0.47%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,804.67 จุด เพิ่มขึ้น 40.83 จุด หรือ +0.53%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,276.48 จุด เพิ่มขึ้น 184.86 จุด หรือ +0.77% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,801.29 จุด เพิ่มขึ้น 14.27 จุด หรือ +0.16%
มาตรการลดภาษีดังกล่าว ซึ่งเป็นมาตรการแรกในชุดนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลเยอรมนีชุดใหม่ มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัวติดต่อกันเป็นปีที่สาม
ผลสำรวจล่าสุดพบว่ากิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนเดือนพ.ค.แทบไม่ขยายตัวเลย ขณะที่ภาคบริการของเยอรมนีหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวกหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในระหว่างวัน
แม้ตลาดปรับตัวขึ้น แต่บรรยากาศการซื้อขายยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังสหรัฐฯ ตัดสินใจเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นสองเท่า และใกล้ถึงเส้นตายที่แต่ละประเทศต้องยื่นข้อเสนอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีใหม่ที่จะเริ่มใช้ต้นเดือนก.ค. 2568
ด้านสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ยิ่งซับซ้อน เมื่อสหรัฐฯ และจีนเตรียมเปิดการเจรจาการค้ารอบสำคัญในสัปดาห์นี้
บรรดานักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ด้วย โดยตลาดคาดว่า ECB จะลดดอกเบี้ยลง 0.25%
หุ้นเกือบทุกกลุ่มปรับขึ้น โดยกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดบวก ส่วนกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 1.1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นคัมพารี (Campari) ที่พุ่งขึ้น 6.4%
ในบรรดาหุ้นรายตัว หุ้นแอร์บัส เอสอี (Airbus SE) พุ่ง 2.2% หลังมีรายงานว่า สายการบินจีนกำลังพิจารณาสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสหลายร้อยลำภายในเดือนหน้า
หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (STMicroelectronics) พุ่งขึ้น 11.1% หลังจากซีอีโอกล่าวว่าผู้ผลิตชิปฝรั่งเศส-อิตาลีรายนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มิ.ย. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป