KTAM ชี้ช่องกระจายสินทรัพย์รับมือความผันผวนเปิดขายรอบใหม่กองผสม KTWC Series

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า จากที่ได้เปิดเสนอขายกองทุน KTWC-INCOME สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนและสร้างกระแสรายได้จากตราสารหนี้ทั่วโลก เพื่อช่วยชดเชยความผันผวนภายใต้สภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน ไปเมื่อวันที่ 17-23 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนด้วยยอดจองซื้อในช่วง IPO กว่า 1,300 ล้านบาท และได้ทำการเปิดเสนอขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 68 เป็นต้นมา โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทุนผ่านธนาคารกรุงไทย รวมถึงแอปพลิเคชัน Next และ KTAM Smart Trade

สำหรับกลุ่มกองทุน “KTWC Series” เป็นกองทุนผสม มีจำนวนกองทุนทั้งสิ้น 5 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนชนิดสะสมมูลค่า จำนวน 4 กองทุน และชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ 1 กองทุน โดยปัจจุบันมียอดทรัพย์สินสุทธิรวมกว่า 11,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิ.ย. 68) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ในต่างประเทศ ที่มีนโยบายลงทุนทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่า โดยจะลงทุนอย่างน้อยตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไปโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV และจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่เกิน 79% ของ NAV ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะมอบหมายให้ FIL Investment Management (Hong Kong) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Fidelity International เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุน โดยไม่รวมในส่วนการลงทุนเพื่อสภาพคล่อง

โดยกลุ่มกองทุน KTWC Series เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 5 ทั้ง 5 กองทุน ประกอบด้วย

(1) กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Income (KTWC-INCOME) เป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์เน้นสร้างกระแสรายได้จากแหล่งที่มาที่มีความหลากหลาย เน้นการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม จะกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV

(2) กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Defensive (KTWC-DEFENSIVE) เป็นกองทุนที่มีกรอบการลงทุนเฉลี่ยระยะยาวในตราสารหนี้ 85% หุ้น 15% เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความผันผวนได้ไม่มาก แต่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อ

(3) กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Moderate (KTWC-MODERATE) มีกรอบการลงทุนเฉลี่ยระยะยาวในตราสารหนี้ 50% หุ้น 50% เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความผันผวนได้บ้าง เน้นการเติบโตของเงินลงทุน และต้องการกระจายการลงทุน

(4) กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Moderate เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTWC-MODERATE RMF) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี และ

(5) กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Growth (KTWC-GROWTH) มีกรอบการลงทุนเฉลี่ยระยะยาวในตราสารหนี้ 20% หุ้น 80% เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความผันผวนได้ และต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้น ทั้งนี้ กลยุทธ์และสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มกองทุน KTWC Series สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางผู้จัดการกองทุน (ที่มา: KTAM และ Fidelity International ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.ค. 2566)

 

“ปัจจัยต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีความผันผวนและส่งผลกระทบต่อการลงทุน อาทิ แนวโน้มการปรับดอกเบี้ยของ Fed สงครามอิสราเอล-อิหร่าน หรือแม้กระทั่งการเมืองภายในประเทศ ซึ่งเหล่านี้ยังคงสร้างความผันผวนในระยะยาว ดังนั้น การลงทุนในกองทุนรวมผสมที่มีรูปแบบกระจายความเสี่ยง จึงเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและลดความเสี่ยงได้มากกว่าการเน้นลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่ง เนื่องจากกองทุนผสมได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งยังสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ได้ตามสภาวะตลาด ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแม้ในช่วงที่ตลาดผันผวน นอกจากนี้ การที่กองทุนผสมมีให้เลือกลงทุนในหลายสินทรัพย์ตามความต้องการและความเสี่ยงที่รับได้ของผู้ลงทุนจึงเหมาะกับผู้ลงทุนทุกระดับ เพียงพิจารณาเป้าหมาย และระยะเวลาการลงทุนเพื่อเลือกกองทุนผสมที่เหมาะสมกับตัวเอง” นางชวินดา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 68)