CONSENSUS: CKP พ้นจุดต่ำสุดลุ้น Q2/67 พลิกกำไร ก่อนพีคใน H2/67 รับ “ลานีญา”

บมจ.ซีเคพาวเวอร์ (CKP) พ้นจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 1/67 ลุ้นพลิกกำไรไตรมาส 2/67 จากเขื่อนน้ำงึม 2 ผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น-ต้นทุนราคาก๊าซลดลง ก่อนเข้าสู่จุดพีคในครึ่งปีหลังรับปรากฏการณ์ลานีญา (La Nina) หนุนน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่ม คาดการณ์รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และกำไรกลับมาสู่ขาขึ้น

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เรามีมุมมองเป็นกลางต่อ CKP คาดว่าแนวโน้มไตรมาส 2/67 มีโอกาสพลิกเป็นกำไร เนื่องจากโรงไฟฟ้าเขื่อนน้ำงึม 2 มีแผนผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากระดับน้ำในเขื่อนสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และอานิสงส์ต้นทุนราคาก๊าซลดลง รวมถึงรับรู้ผลขาดทุน equity loss จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) ลดลง เนื่องจากกระแสน้ำสูงขึ้น

ขณะที่ยังคงมุมมองตามการพยากรณ์ล่าสุดของ National Oceanic and Atmospheric Agency (NOAA) ในเดือน พ.ค.67 สภาพภูมิอากาศโลกจะสิ้นสุด เอลนีโญ (El Nino) เริ่มเข้าสู่ภาวะ ลานีญา (La Nina) ในเดือน ก.ค.67 ด้วยความน่าจะเป็น 69% และจะเพิ่มเป็นมากกว่า 80% จากเดือนส.ค.ถึงสิ้นปีนี้ ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และกำไรเป็นแนวโน้มขาขึ้นในปี 67-68

ทั้งนี้ La lina เป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกกลางและตะวันออกมีค่าต่ำกว่าปกติ เนื่องจาก trade wind ตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดอยู่เป็นประจำในแปซิฟิกเขตร้อนทางซีกโลกใต้มีกำลังแรงกว่าปกติ จึงพัดพาผิวน้ำทะเลที่อุ่นจากแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก (บริเวณฝั่งเอกวาดอร์ เปรู และชิลีตอนเหนือ) ไปสะสมอยู่ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตก (บริเวณชายฝั่งอินโดนีเซียและออสเตรเลีย) ทำให้เกิดผลกระทบคือภาวะฝนตกหนักในซีกโลกฝั่งนี้

นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ยังระบุว่า สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางของ CKP อยู่ที่ 29% (ณ สิ้นเดือน เม.ย.) ซึ่งเร็วกว่าแผน

ดังนั้น คงประมาณการกำไรปี 67 ไว้ที่ 1,576 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าในไตรมาส 2/67 มีโอกาสพลิกกำไร และเคลื่อนเข้าสู่ช่วง peak ตามฤดูกาลในครึ่งปีหลัง โดยจะได้แรงสนับสนุนจากภาวะ La Nina คงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 4.50 บาท

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดผลประกอบการในไตรมาส 2/67 จะดีขึ้น QoQ เนื่องจากผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญจะคลายตัวลง และจะมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในไตรมาส 3/67 ตามฤดูกาล โดยคาดการณ์ว่าภาวะเอลนิโญจะเปลี่ยนเป็นสภาวะปกติในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.67 (มีโอกาส 85%) และมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะเกิดปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค.67 (โอกาส 60%) โดยลานีญาจะเป็นสภาวะที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือนส.ค.-ต.ค.67 จนถึงธ.ค.67-ก.พ.68 ซึ่งบ่งชี้ว่าจะมีปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำไหล และรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

ยังคงประมาณการทางการเงินและราคาเป้าหมายที่ 4.70 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยอิงจากการคาดการณ์ว่าผลประกอบการจะดีขึ้นในปี 67 รวมถึงราคาหุ้นยังถูกอยู่เมื่อเทียบกับมูลค่าที่เหมาะสม ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ปริมาณน้ำไหลผิดคาด ต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ค่าเงินบาททรงตัวแข็งค่า และการหยุดดำเนินงานนอกแผน

ส่วน บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงประมาณการกำไรหลักในปี 67-69 โดยเติบโต 26%, 19%, 10% ตามลำดับ จากกระแสน้ำไหลเข้าเขื่อนมากขึ้นตามความเป็นไปได้ในการเกิดภาวะ La Nina อย่างไรก็ดี ยังคงมองบวกกับแนวโน้มโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่างๆ ในปี 67 โดยเฉพาะในไตรมาส 3/67 ซึ่งเราจะเห็นกำไรของ CKP ดีดขึ้น QoQ อย่างมาก เพราะเป็น high season และคาดเกิดภาวะ La Nina ในเดือน ส.ค.- ธ.ค. 67 นอกจากนั้นคาดกำไรไตรมาส 2/67 ฟื้นตัว QoQ ถูกขับเคลื่อนโดยการเข้าสู่ภาวะ “Neutral” ในเดือนเม.ย.- ก.ค. 67 ทำให้การดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้คาดเกิดขาดทุนจาก FX ที่โครงการหลวงพระบางน้อยลงหากอิงระดับอัตราแลกเปลี่ยน US$/THB ในปัจจุบัน

ยังแนะนำ “ซื้อ” พร้อมราคาเป้าหมาย DCF ที่ 5.00 บาท โดยที่ CKP กำลังอยู่ในวัฎจักรการปรับเพิ่มกำไรจากตลาด ตามความน่าจะเป็นมากขึ้นที่จะเกิด La Nina และวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่จบรอบแล้ว ทั้งนี้มองว่าหากราคาหุ้นย่อลงจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 ที่แย่จากรายการที่ไม่ใช่เงินสดจะถือเป็นโอกาสเข้าซื้อ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top