TALK: เทรดสไตล์ “หยง Monkey Trader” เทรด TFEX เอาตัวรอดอย่างไรเมื่อหุ้นเจอ Panic Sell (ตอน 3)

กระบวนการทางความคิดที่ดี (Mindset) มักนำพาไปสู่หนทางที่ประสบความสำเร็จแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้น และวันที่ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นไทยโดนถล่มหนักเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) อย่างเต็มรูปแบบจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

“อินโฟเควสท์” มีโอกาสพูดคุยมุมมองการลงทุนกับ”หยง” หรือนายธำรงชัย เอกอมรวงศ์ นักลงทุนอิสระ ซึ่งเป็นวิทยากรและเจ้าของหนังสือ “หยงเกิดมาเทรด” ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีกับการเทรดสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในไทยและต่างประเทศ แชร์มุมมองและข้อมูลที่เป็นประโยชน์คาดหวังว่านักลงทุนหลายๆท่านคงนำไปต่อยอดปรับใช้ตามสไตล์การลงทุนของตัวเองต่อไป

วันนี้ชวนคุยกับการเทรดในตลาดอนุพันธ์ “TFEX” เป็นทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุนที่นิยมทำกำไรช่วงสั้น เพราะนอกจากจะใช้เงินลงทุนน้อยแล้ว ยังสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงคือฝั่ง Long และฝั่ง Short

แต่ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นไทยปรับฐานอย่างหนัก เชื่อว่ามีนักลงทุนได้รับผลกระทบขาดทุนจากการเทรด”TFEX” ไม่มากก็น้อย หรืออาจสร้างกำไรจากในสินค้าอ้างอิงที่นิยมกันมากที่สุดในเวลานี้คือ “SET50 Index Futures” และ “Block Trade” เป็นการลงทุนใน Futures ประเภท Single Stock Futures (SSF) ที่อ้างอิงหุ้นใน SET50 และ SET100 ที่เพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้ลงทุนเป็น 10 เท่า เมื่อนักลงทุนเทรดผิดทางเกิดความผิดพลาดการวางกลยุทธ์เหมาะสมควรต้องเป็นรูปแบบใด ??

“หยง” กล่าวว่า ช่วงที่ตลาดปรับตัวลงรุนแรงจากภาวะ Panic Sell บรรยากาศซื้อขายไม่ปกติ ผู้ที่เปิด Short ใน “SET50 Index Futures” ต้องบอกว่าโชคดี เพราะความเห็นส่วนตัวมองว่าการเทรด SET50 Index Futures ท่ามกลางภาวะการเหวี่ยงขึ้นและลงไม่ปกติ ค่อนข้างเป็นอันตรายสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพอร์ตลงทุนได้ง่าย เพราะไม่สามารถวิเคราะห์หรือควบคุมความเสี่ยงได้เลย ดังนั้นแนวทางการเทรด TFEX ไม่ควรยึดติดกับแนวโน้มหรือเทรนด์ในระยะยาว แต่ควรยึดการทำกำไรตามรอบขึ้นและลงจากความผันผวนของดัชนีฯหรือเรียกง่ายๆว่าทำกำไรให้ได้ตามรอบของการกระชากขึ้นและลงนั้นเอง ซึ่งผู้ที่เข้าใจหลักการวิธีทำกำไรในลักษณะนี้จะเป็นผู้ที่อยู่รอดในตลาด TFEX

สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังไม่มีความแน่นอนการเข้าไปเทรด TFEX ต้องวางกลยุทธ์อย่างไรเพื่อดูแลความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งเป็น กรณีนักลงทุนที่ยังไม่มีของ แต่อยากเข้าไปเทรดทำกำไรระยะสั้น อยากแนะนำว่าควรหันไปเทรด Options (สิทธิในการซื้อหรือสิทธิในการขาย) ดีกว่าเพราะอย่างน้อยในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นผันผวนรุนแรง Options ยังมี limit หรือจำกัดความเสียหายได้ หรือถ้าคิดว่าอยากเลือกเทรด 2 ฝั่งก็ควรซื้อ call และ put options เพราะราคาถูก เมื่อเด้งฝั่งไหนก็ทำกำไรได้เช่นกัน แม้ว่าจะได้รับในจำนวนไม่มากก็ตาม แต่นับเป็นกลยุทธ์ที่ดีของการบริหารความเสี่ยงท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นผันผวนไม่มีความแน่นอนเช่นนี้

ส่วนกรณีนักลงทุนที่มีของอยู่แล้ว เมื่อมีกำไรก็ยินดีด้วย แต่ต้องอย่าลืมควบคุมความเสี่ยงต้องบริหารกำไรให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นแรงเหวี่ยงของดัชนีฯย่อมกระทบพอร์ตกลับมาพลิกขาดทุนได้เหมือนกัน

และสุดท้ายกรณีนักลงทุนพอร์ต TFEX ขาดทุน สิ่งที่ควรตระหนัก คือ อย่าเปิดสวนทางอีกฝั่ง ควรให้ปิดสถานะทันที กัดฟันแล้วค่อยกลับมาวางเกมใหม่ น่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมมากกว่า

“ผมไม่เคยเข้าใจว่ามีการสอนว่าเวลาเกิดความเสียหายเทรด TFEX ให้เปิดอีกฝั่งเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่นเทรดหน้า Long เมื่อผิดพลาดตลาดหุ้นร่วงหนัก ก็กลับมาเปิดฝั่ง Short แต่จากประสบการณ์เทรดมา 10 ปีอย่าเปิด 2 ฝั่งเมื่อเกิดความเสียหาย ถ้าอยากเปิด 2 ฝั่งควรไปเทรด Options ซึ่งในกรณีเทรด Futures ควรเทรดเพียงแค่ฝั่งเดียวเท่านั้น”

“หยง” กล่าวต่อว่า แนวทางการกู้พอร์ต TFEX แม้ว่ายากและช้าแต่ก็ต้องทำ สิ่งที่ควรทำอันดับแรกคือ Stop Loss แต่ถ้าเสียหายหนักไม่สามารถ Stop Loss ได้ทั้งหมดก็อาจปรับพอร์ตบางส่วน 10-20% ของพอร์ต เพื่อเป็นการดึงสภาพคล่องเงินสดออกมาก่อน หลังจากนั้นค่อยมาวางแผนใหม่วางหลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin – MM) ให้ดี เมื่อภาวะตลาดหุ้นกลับมานิ่ง ความผันผวนเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด ก็สามารถเข้าไปเทรดทำกำไรแต่ต้องมีวินัยบริหารความเสี่ยงเพื่อลดความผิดพลาด

“เกมกู้พอร์ตจะยากและช้า แม้ว่ามีคนส่วนใหญ่ใช้วิธีเมื่อผิดทางก็เพิ่มวงเงินเทรดเข้าไปอีกเท่าตัว พอตลาดเด้งกลับมาพอร์ตกลับมาเป็นปกติรวดเร็ว แต่ความเป็นจริงแล้วเป็นวิธีที่อันตรายมากถึงมากที่สุด อันตรายอย่างไรคืออันตรายแบบที่ว่าคนที่เจ๊ง ไม่มีใครได้พูดต่อเลยสักคน จึงอยากแนะนำนักลงทุนว่าอย่าทำเช่นนี้เด็ดขาด ผมเคยเจอกรณีเทรดและไปทุ่มจนหมดเนื้อหมดตัว บ้านแตก ฆ่าตัวตายก็เพราะว่ายื้อและไม่ยอม Stop Loss”

ขณะที่นักลงทุนที่ใช้ Block trade อยากแนะนำนักลงทุนว่ากรณีนักลงทุนที่มีฐานทุนเล็กไม่ควรเข้ามาใช้ ตามแนวทางส่วนตัวการใช้ Block trade อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องกระจายลงทุนในหุ้นประมาณ 4 ตัว เพื่อเป็นกลยุทธ์บริหารโอกาสไม่เช่นนั้นกรณีเข้าซื้อหุ้น PTT เพียงตัวเดียว เมื่อราคาหุ้นไม่ไปไหนหรือหุ้นลงหนักจะเกิดความเสียหาย

ฉะนั้น ผู้ที่อยากเข้ามาใช้ Block trade ควรมีเงินอย่างน้อย 15-20 ล้านบาท ถึงจะทำให้ใช้ Block trade ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กลยุทธ์การใช้ Block trade ไม่ควรจัดเต็มในการเข้าซื้อในไม้แรก แต่ค่อยๆ เข้าไปซื้อหลังจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างกำไรจาก Block trade ในสไตล์ของแต่ละบุคคล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มี.ค. 63)

Tags: , , , , , , , , , , ,
Back to Top